วันที่ 20 สิงหาคม 2568 พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดทำรั้วตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยยืนยันว่ากองทัพไทยจะเดินหน้าสร้างรั้วในพื้นที่ที่มีการตกลงร่วมกันกับฝ่ายกัมพูชาเรียบร้อยแล้ว เพื่อยกระดับความมั่นคงและเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลชายแดน
ล่าสุด กองทัพไทยได้ข้อสรุปแนวทางการก่อสร้างรั้วถาวรในพื้นที่ จังหวัดสระแก้ว รวมระยะทาง 23.6 กิโลเมตร โดยแบ่งออกเป็น 2 ช่วงหลัก
-ช่วงจุดตรวจอรัญ 09 ถึงหลักเขตที่ 49 ระยะทาง 6.5 กิโลเมตร
-ช่วงหลักเขตที่ 50 ถึง 51 ระยะทาง 17.1 กิโลเมตร
พื้นที่ทั้งสองช่วงถือว่าไม่มีข้อพิพาทด้านเขตแดน เนื่องจากมีลักษณะภูมิประเทศชัดเจน เช่น คลองลึกและคลองพรมโหด ซึ่งทำหน้าที่เป็นเส้นแบ่งเขตธรรมชาติระหว่างประเทศ
นอกจากรั้วถาวรแล้ว กองทัพไทยยังผลักดันแนวคิด รั้วอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะใช้ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ร่วมกับรั้วชั่วคราวในพื้นที่ที่มีความอ่อนไหว โดยเฉพาะจุดที่มักเกิดการลักลอบเข้าเมืองหรือพื้นที่ที่ยากต่อการเฝ้าระวัง
การดำเนินงานในเฟสแรกเริ่มต้นแล้วเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 โดยมีการติดตั้งเสากล้องวงจรปิดต้นแรกบริเวณ หลักเขตชายแดนที่ 50 ด้านหลังด่านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว นับเป็นก้าวสำคัญในการวางระบบตรวจการณ์ที่ทันสมัยเพื่อความมั่นคงชายแดน
สำหรับ แผนเร่งด่วนในปีงบประมาณ 2568 กองทัพไทยจะเริ่มก่อสร้างรั้วชั่วคราวในช่วง หลักเขตที่ 50-51 ระยะทาง 5.1 กิโลเมตร โดยมี หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 12 (นพค.12) เป็นผู้รับผิดชอบในการปรับพื้นที่และก่อสร้าง
ส่วนพื้นที่ที่ยังไม่ได้ข้อยุติเกี่ยวกับแนวเขตแดน กองทัพยังคงใช้มาตรการ ลาดตระเวนและเฝ้าตรวจอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งพัฒนา เส้นทางยุทธวิธีตลอดแนวชายแดน เพื่อเสริมความปลอดภัยและรักษาอธิปไตยของประเทศ
พลตรี วิทัย ยังกล่าวย้ำถึงข้อกังวลที่มีต่อการสร้างรั้ว ว่าโครงการดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตีความเขตแดนบริเวณตลิ่งหรือกลางลำน้ำ และไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับการสูญเสียดินแดน เนื่องจากทุกขั้นตอนดำเนินการในพื้นที่ที่มีการตกลงร่วมกันระหว่างทั้งสองประเทศอย่างชัดเจนแล้ว
ทั้งนี้ เป้าหมายหลักของโครงการคือการ เสริมสร้างความมั่นคง ป้องกันภัยคุกคาม และยกระดับประสิทธิภาพในการดูแลชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและความมั่นคงของชาติในระยะยาว