อ.ปานเทพ มอบแอนตี้โดรน 36 ระบบ มูลค่ากว่า 80 ล้าน ให้กองทัพภาคที่ 2

วันที่ 22 ก.ย.2568 อ.ปานเทพ ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โดยระบุว่า มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินมอบระบบแอนตี้โดรนและแบตเตอรี่มูลค่ากว่า 80 ล้านบาท วันนี้(22 กันยายน 2568) ผมอาจารย์ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ได้เป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนที่ได้ร่วมบริจาคโครงการโดรนและแอนตี้โดรน เพื่อเดินทางมาพบพลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อส่งมอบระบบแอนตี้โดรนจำนวน 36 ระบบ เป็นจำนวนเงิน 77,040,000 บาท และแบตเตอรี่จำนวน 150 ก้อนเป็นจำนวนเงิน 3,771,750 บาท รวมมูลค่าในการส่งมอบรอบนี้ 80,811,750 บาท แม้ระบบแอนตีัโดรนยังไม่เพียงพอต่อความต้องการทั้งหมด และยังขาดอีก 63 ระบบ แต่ด้วยงบประมาณที่เหลืออยู่ประมาณ 10 ล้านบาท ทางมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินได้ปรึกษากับท่านแม่ทัพภาคที่ 2 แล้ว จึงจะกลับมาเดินหน้าจัดหาโดรนพิเศษที่เป็นความลับทางราชการตามที่ท่านพลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แจ้งความต้องการมาอย่างเร่งด่วน นอกจากนั้นผมยังได้มีโอกาสสนทนาแลกเปลี่ยนและเสนอข้อมูลเรื่องแนวคิดการแสวงหาความจริงเพื่อการทวงคืนแผ่นดินมณฑลบูรพาและประจันตคีรีเขต ซึ่งท่านแม่ทัพภาคที่ 2 ให้ความสนใจในข้อมูลนี้ นอกจากนึ้ผมได้มอบของขวัญวันคล้ายวันเกิดของท่านพลโทบุญสิน … Read more

ราชกิจจาฯประกาศ “พล.อ.นเรศรักษ์ ฐิตะฐาน” พ้นหน้าที่ราชองครักษ์

ราชกิจจานุเบกษาประกาศ พลเอก นเรศรักษ์ ฐิตะฐาน นายทหารราชองครักษ์พิเศษ พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ราชองครักษ์อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2568 เพื่อให้สาธารณชนรับทราบอย่างเป็นทางการ รายละเอียดดังนี้ ประกาศ ราชกิจจานุเบกษา 26 กันยายน 2568 ประกาศให้นายทหารราชองครักษ์พิเศษ พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ราชองครักษ์ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายทหารราชองครักษ์พิเศษ พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ราชองครักษ์ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 25260 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 24480 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราของครักษ์ พ.ศ. 2559 จึงทรงพระกรุณา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก นเรศรักษ์ ฐิตะฐาน นายทหารราของครักษ์พิเศษ พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ราชองครักษ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน พุทธศักราช 2568 ประกาศ ณ … Read more

โพรงลับ เสธ.เบิร์ด เปิดฐานด้านใน เขมรซ่อนตัวบนภูมะเขือ

วันที่ 27 กันยายน 68 เสธ.เบิร์ด ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอหลักฐาน ผ่านทางเฟซบุ๊ก Wanchana Sawasdee โดยระบุว่า บนภูมะเขือ มีช่องหลบภัยและใช้เป็นที่แอบสำหรับซุ่มยิงได้ด้วย ภายในอยู่ได้ประมาณ 20 คน เป็นโพรงถ้ำธรรมชาติมีช่องออก 2 ช่องที่หน้าผา โดยเขมรทำทางขึ้นมาที่ช่อง 2 ช่อง และเข้ามาในโพรง และทำบันไดทางขึ้นมาด้านบนโดยก่อกำแพงปูนเป็นปล่องสำหรับขึ้นมาบนยอดภู ถือว่าเป็นที่มั่นดัดแปลงที่แข็งแรงยากต่อการโจมตีจากภายนอก ดังนั้นการที่ทหารไทยเข้าตียึดภูมะเขือได้แบบเบ็ดเสร็จถือว่าเก่งมากจริงๆ และคาดว่า โพรงนี้เป็นช่องทางที่ทหารเขมรมุดลงเพื่อถอดหนีไปตอนที่ทหารไทยบุกขึ้นมายึด แม้จะเก็บร่างทหารเขมรส่งกลับไปแล้ว แต่ช่วงนั้นยังได้กลิ่นเน่าอยู่ คาดว่าคงเสียชีวิตติดอยู่บริเวณหน้าผาจำนวนหนึ่งแต่ก็มากพอที่จะได้กลิ่นเน่าเหม็นโชยมา และถ้าถามว่าทางการเขมรมาเก็บร่างกลับไปไหม ก็ตอบได้ว่า ไม่ได้มาเก็บและไม่คิดจะเก็บ แต่ที่กลิ่นร่างผู้เสียชีวิตหายไปคงหายไปเพราะ เน่าเปื่อยและร่วงหล่นลงไปด้านล่างเป็นอาหารของนกแร้งและสัตว์ป่าตามสภาพ ป่านนี้คงเหลือแต่กระดูกและยากต่อการพิสูจน์อัตลักษณ์ น่าสงสารญาติพี่น้องของทหารเขมรที่ไม่มีโอกาสได้นำไปบำเพ็ญกุศลตามหลักศาสนา ภาพจากเฟซบุ๊ก Wanchana Sawasdee ภาพจากเฟซบุ๊ก Wanchana Sawasdee ภาพจากเฟซบุ๊ก Wanchana Sawasdee เรียบเรียงโดย มุมข่าว

สรุปราคาทองวันนี้ 27 กันยายน 2568

สรุปราคาทองวันนี้ 27 กันยายน 2568 โดย สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองครั้งที่ 1 (เปิดตลาด) เมื่อเวลา 09.06 น. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 200 บาท สู่บริเวณ 57,400 บาท เมื่อเทียบกับประกาศราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของเมื่อวาน (วันศุกร์) ที่ระหว่างวันมีการประกาศราคาทองคำทั้งหมด 7 ครั้ง รวมราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท ราคาซื้อขายทองคำในประเทศชนิด 96.5% วันเสาร์ ที่ 27 กันยายน 2568 (ประกาศครั้งเดียว) ทองรูปพรรณ ขายออกบาทละ 58,200 ฐานภาษีบาทละ 56,152.64 ทองแท่ง ขายออกบาทละ 57,400 รับซื้อบาทละ 57,300 โดยตลอดทั้งวัน วันนี้ ราคาทองมีการปรับแค่ครั้งเดียว ส่งผลให้ราคาทองทองยังคงที่อยู่เท่าเดิมจากเช้านี้ เรียบเรียงโดยทีมข่าวสยามนิวส์

สกัดจับระทึก กระบะตู้ทึบขนแรงงานต่างด้าว 26 ชีวิต พยายามหนีจนยางแตก

เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ได้ปฏิบัติการไล่สกัดจับรถกระบะต้องสงสัยที่ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ได้ผู้ต้องหาบุคคลต่างด้าวถึง 26 ราย บริเวณ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ปฏิบัติการดังกล่าวสืบเนื่องจากฝ่ายปกครองอำเภอทองผาภูมิ ได้รับเบาะแสขบวนการลักลอบนำพาแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย โดยเดินทางมาจากด่านเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงประสานมายังตำรวจทางหลวง ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. ให้ช่วยติดตาม จนกระทั่งเวลาประมาณ 04.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงพบรถกระบะตู้ทึบสีขาว มีลักษณะบรรทุกหนักผิดปกติและใช้ความเร็วสูงวิ่งมาบนถนนทางหลวงหมายเลข 323 (ไทรโยค-ทองผาภูมิ) ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงสัญญาณให้หยุดรถ รถคันดังกล่าวกลับ เร่งเครื่องหลบหนี ทันที เจ้าหน้าที่จึงเริ่มทำการไล่ติดตามอย่างกระชั้นชิด เมื่อมาถึงถนนหมายเลข 323 กิโลเมตรที่ 139-140 รถกระบะตู้ทึบคันดังกล่าวได้ เสียหลักเฉี่ยวชนฝาท่อริมถนน บริเวณจุดพักรถของกรมทางหลวง จนทำให้ ยางระเบิด ในช่วงชุลมุนและความมืด คนขับรถได้อาศัยจังหวะทิ้งรถวิ่งหลบหนี เข้าไปในบริเวณหน้ากองการเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานทหารพัฒนา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จากการเข้าตรวจสอบรถกระบะตู้ทึบ เจ้าหน้าที่พบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 26 คน อัดแน่นอยู่ภายใน … Read more

หนุ่มใหญ่ดับสลด ขับกระบะพุ่งข้ามเกาะกลาง ชนประสานงาบรรทุก 6 ล้ออย่างจัง

ของวันที่ 27 กันยายน 2568 ร.ต.อ.ธรรมรัตน์ หนูกลิ่น รอง สว.(สอบสวน) สภ.เปร็ง ได้รับแจ้งเหตุรถบรรทุกชนรถกระบะบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 13 ต.คลองสวน อ.บางบ่อ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูและแพทย์นิติเวชเข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบ รถกระบะ สีขาว สภาพพังยับเยินใกล้กับรถบรรทุก 6 ล้อ โดยพบร่าง นาย ส. อายุ 65 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะ ถูกพบว่าไม่มีชีพจร แม้เจ้าหน้าที่กู้ภัยและทีมแพทย์พยายามทำ CPR ช่วยชีวิตอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ นายสมศักดิ์เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบ กล้องวงจรปิดหน้ารถบรรทุก 6 ล้อ เผยให้เห็นวินาทีสุดระทึก โดยรถกระบะคันเกิดเหตุได้ ขับพุ่งออกมาจากซอยฝั่งตรงข้าม ก่อนจะพุ่งเข้าชน เกาะกลางถนนอย่างแรง จนรถเหินข้ามเกาะกลางถนนไปชนเข้ากับด้านหน้าฝั่งขวาของรถบรรทุก 6 ล้อที่วิ่งมาตามปกติอย่างจัง จนรถกระเด็น บุตรชายของผู้เสียชีวิตเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุถึงกับทรุดลงร้องไห้ด้วยความเสียใจ พร้อมเปิดเผยว่า พ่อกำลังขับรถออกจากบ้านพักในซอยเพื่อไปซื้อน้ำมันที่ปั๊ม ห่างจากบ้านเพียง 2 กิโลเมตร เพื่อนำมาใส่เครื่องสูบน้ำที่นา โดยไม่คาดคิดว่าจะมาประสบอุบัติเหตุเช่นนี้ … Read more

เมื่อ 15 นาทีที่แล้ว ณเดชน์ คูกิมิยะ ขณะกำลังเดินทางกลับบ้านที่กรุงเทพฯ เล่ากันว่าปรากฏตัวที่หลุมยุบอันน่าสะพรึงกลัวลึก 50 เมตร

กรุงเทพฯ ประเทศไทย – เหตุการณ์ที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วประเทศและทำให้แฟนๆ ทั่วเอเชียตกตะลึง เมื่อเร็วๆ นี้ มีรายงานว่า ณเดชน์ คูกิมิยะ ซูเปอร์สตาร์ชาวไทย ถูกพบเห็นใกล้กับจุดเกิดเหตุหลุมยุบขนาดมหึมา 50 เมตร ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันใจกลางกรุงเทพฯ พยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า นักแสดงหนุ่มกำลังเดินทางกลับบ้านขณะที่เขากำลังเข้าใกล้ขอบหลุมยุบ และไม่นานหลังจากนั้น การติดต่อทั้งหมดก็ขาดหายไป เจ้าหน้าที่และหน่วยบริการฉุกเฉินกำลังเร่งรุดเข้าช่วยเหลือเหตุการณ์ที่ถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ในเมืองที่อันตรายที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยยุคใหม่     หลุมยุบดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นใกล้กับทางแยกที่มีการจราจรหนาแน่น ได้กลืนกินถนนบางส่วน รถยนต์ใกล้เคียงจำนวนหนึ่ง และโครงสร้างพื้นฐานโดยรอบบางส่วนภายในเวลาไม่กี่วินาที ชาวบ้านในพื้นที่เล่าว่าได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวตามมาด้วยเสียงถล่มเกือบจะในทันที “มันเหมือนกับว่าพื้นดินหายไปเฉยๆ” ชาวบ้านคนหนึ่งกล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยอาการสั่นสะท้านอย่างเห็นได้ชัด “ผู้คนกรีดร้อง รถล้มลงมา วุ่นวายไปหมด” พยานที่อ้างว่าเห็นณเดชน์ ณ ที่เกิดเหตุได้บรรยายถึงเหตุการณ์ที่เหนือจริงและน่าสะพรึงกลัวว่า “เขาอยู่ตรงนั้น ยืนอยู่ใกล้ขอบผา แข็งทื่อ จากนั้นพื้นดินเบื้องล่างเขาก็เคลื่อนตัว และเขาก็หายไป” พยานคนหนึ่งซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อกล่าว “ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก คุณไม่มีเวลาแม้แต่จะตอบสนอง” ผู้ที่เดินผ่านไปมาอีกคนหนึ่งเล่าว่าเห็นนักแสดงโบกมือให้ใครบางคนเพียงครู่เดียวก่อนที่จะหายตัวไป เรื่องราวเหล่านี้แม้จะมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ขัดแย้งกัน แต่ก็สอดคล้องกับความจริงอันน่าสะพรึงกลัวอย่างหนึ่ง นั่นคือ ณเดชน์เป็นบุคคลสำคัญคนสุดท้ายที่เห็นในสถานที่เกิดเหตุก่อนเกิดเหตุถล่ม และยังคงไม่ทราบที่อยู่ของเขา เพื่อตอบสนองต่อเรื่องนี้ ครอบครัวของณเดชน์ คูกิมิยะ ได้ออกแถลงการณ์ที่สะเทือนใจต่อแฟนๆ และสื่อมวลชนว่า … Read more

เจ้าของบ้านช็อก! น้ำป่าพัดบ้านพังทั้งหลังต่อหน้า หนักสุดในรอบ 10 ปี

วันที่ 27 ก.ย.2568 เกิดฝนตกตลอดคํ่าคืนที่ผ่านมา ส่งผลทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากจากพื้นที่ราบสูง ในพื้นที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ไหลหลากเข้าท่วม ถนนสายพิมาย-ชุมพวง หน้าโรงเรียนพิมายสามัคคี 1 ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 30 เซนติเมตร ทำให้รถขนาดเล็กวิ่งสัญจรผ่านไปมาลำบาก เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรงมาก และยังเพิ่มปริมาณสูงขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้น้ำป่ายังได้ไหลพัดบ้านของ ชาย อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พังเสียถล่มลงมาทั้งหลัง โชคดีที่คนในบ้านหนีรอดออกมาได้ จึงไม่มีใครได้รับอันตราย เจ้าของบ้าน เล่าว่า ฝนที่ตกหนักทั้งคืนและมีน้ำป่าไหลมาจากพื้นที่สูง ซัดบ้านของตัวเองพังถล่มทั้งหลังในครั้งนี้ นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด และไม่คิดว่าน้ำป่าจะไหลแรงถึงขนาดนี้ หนักสุดในรอบ 10 ปี ไม่สามารถประเมินความเสียหายได้     ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลพิมาย เร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหายทั้งหมด เตรียมให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนแล้ว

แม่โกรธ ลูกคิดเลข 5+0=5 ครูตรวจว่าผิด โพสต์ถามกลุ่ม ผปค. แต่รู้เฉลยกลายเป็นอับอาย

คุณแม่โกรธ ลูกคิดเลข 5 + 0 = 5 แล้วครูตรวจว่า “ผิด” โพสต์ถามในกลุ่มผู้ปกครอง รู้เฉลยถึงกับเขิน เช่นเดียวกับพ่อแม่หลายๆ คน หลังจากได้ฟังวิธีแก้ปัญหาแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าครูเก่งจริงๆ กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในกลุ่มผู้ปกครองชั้นประถมศึกษาในเวียดนาม เมื่อคุณแม่รายหนึ่งโพสต์แสดงความสงสัย หลังลูกถูกหักคะแนนจากคำตอบ “5 + 0 = 5” ในแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ แม้จะเป็นคำตอบที่ดูเหมือนจะถูกต้องตามหลักการบวกเลขทั่วไปก็ตาม คุณแม่เล่าว่า ลูกของเธอกลับจากโรงเรียนพร้อมกระดาษแบบฝึกหัด ซึ่งมีอยู่หลายข้อที่ลูกทำถูก แต่ครูกลับให้เป็น “ผิด” โดยเฉพาะในบทที่ 8 ที่มีคำตอบ 5 + 0 = 5 และ 6 + 0 = 6 ที่ถูกขีดทับว่าไม่ถูกต้อง สร้างความสับสนให้กับผู้ปกครองไม่น้อย หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีผู้ปกครองจำนวนมากเข้ามาแสดงความเห็น บางรายยืนยันว่าคำตอบที่เด็กกรอกนั้น “ถูกต้องตามหลักเลขคณิต” และตั้งคำถามว่าทำไมครูถึงไม่ให้คะแนน อย่างไรก็ตาม หลังมีผู้ปกครองบางคนพิจารณาโจทย์อย่างละเอียด จึงพบว่าแบบฝึกหัดดังกล่าวไม่ได้เป็นแค่การคำนวณตัวเลขธรรมดา แต่ต้องการสอนเด็กให้ สังเกต สร้างเหตุผล และแทนค่าตัวเลขจากสัญลักษณ์ ที่โจทย์กำหนด จากภาพในกระดาษแบบฝึกหัด เด็ก ๆ ได้รับโจทย์ที่ใช้รูปทรงต่าง ๆ แทนตัวเลข เช่น สี่เหลี่ยม, วงกลม … Read more

แม่โกรธ ลูกคิดเลข 5+0=5 ครูตรวจว่าผิด โพสต์ถามกลุ่ม ผปค. แต่รู้เฉลยกลายเป็นอับอาย

คุณแม่โกรธ ลูกคิดเลข 5 + 0 = 5 แล้วครูตรวจว่า “ผิด” โพสต์ถามในกลุ่มผู้ปกครอง รู้เฉลยถึงกับเขิน เช่นเดียวกับพ่อแม่หลายๆ คน หลังจากได้ฟังวิธีแก้ปัญหาแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าครูเก่งจริงๆ กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในกลุ่มผู้ปกครองชั้นประถมศึกษาในเวียดนาม เมื่อคุณแม่รายหนึ่งโพสต์แสดงความสงสัย หลังลูกถูกหักคะแนนจากคำตอบ “5 + 0 = 5” ในแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ แม้จะเป็นคำตอบที่ดูเหมือนจะถูกต้องตามหลักการบวกเลขทั่วไปก็ตาม คุณแม่เล่าว่า ลูกของเธอกลับจากโรงเรียนพร้อมกระดาษแบบฝึกหัด ซึ่งมีอยู่หลายข้อที่ลูกทำถูก แต่ครูกลับให้เป็น “ผิด” โดยเฉพาะในบทที่ 8 ที่มีคำตอบ 5 + 0 = 5 และ 6 + 0 = 6 ที่ถูกขีดทับว่าไม่ถูกต้อง สร้างความสับสนให้กับผู้ปกครองไม่น้อย หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีผู้ปกครองจำนวนมากเข้ามาแสดงความเห็น บางรายยืนยันว่าคำตอบที่เด็กกรอกนั้น “ถูกต้องตามหลักเลขคณิต” และตั้งคำถามว่าทำไมครูถึงไม่ให้คะแนน อย่างไรก็ตาม หลังมีผู้ปกครองบางคนพิจารณาโจทย์อย่างละเอียด จึงพบว่าแบบฝึกหัดดังกล่าวไม่ได้เป็นแค่การคำนวณตัวเลขธรรมดา แต่ต้องการสอนเด็กให้ สังเกต สร้างเหตุผล และแทนค่าตัวเลขจากสัญลักษณ์ ที่โจทย์กำหนด จากภาพในกระดาษแบบฝึกหัด เด็ก ๆ ได้รับโจทย์ที่ใช้รูปทรงต่าง ๆ แทนตัวเลข เช่น สี่เหลี่ยม, วงกลม … Read more