เศร้าหนัก “สุนัขตำรวจตรีซาโบ้” K9 ชื่อดัง จากไปอย่างสงบ

คนรักสัตว์และแฟนคลับพากันใจหาย วันที่ 9 ตุลาคม 2568 สิบตำรวจเอก จิรทีปต์ ดีพาชู หรือ คุณโบ เจ้าของช่อง โบกะโบ้ แจ้งข่าวเศร้า “ซาโบ้” สุนัข K9 ชื่อดัง เสียชีวิตแล้ว จากไปอย่างสงบหลังป่วยมานานระยะหนึ่ง โดยคุณโบโพสต์ข้อความอาลัยสุดเศร้าว่า   เศร้าหนัก สุนัขตำรวจตรีซาโบ้ K9 ชื่อดัง จากไปอย่างสงบ  เศร้าหนัก สุนัขตำรวจตรีซาโบ้ K9 ชื่อดัง จากไปอย่างสงบ    “ขอบคุณที่รับใช้ประเทศชาติ  ขอบคุณที่ทำให้ทุกคนได้รู้จักหมาตำรวจเยอะขึ้น ขอบคุณที่สร้างรอยยิ้มและความสุขให้ทุกคน เก่งนะเนี่ยไอลูกหมาตัวแค่เนี้ย รักที่สุดเลยนะ ไว้เจอกันใหม่ไอรูปหล่อของพ่อ พี่ฟูของทุกคน 9 ต.ค. 2568 สุนัขตำรวจตรีซาโบ้” เศร้าหนัก สุนัขตำรวจตรีซาโบ้ K9 ชื่อดัง จากไปอย่างสงบ    สำหรับสุนัขตำรวจตรีซาโบ้ เป็นขวัญใจของใครหลายๆคนจากช่อง โบกะโบ้ ด้วยความน่ารักของซาโบ้ที่เป็นมิตรกับประชาชน และมักจะมีคลิปขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถไฟฟ้ามาให้แฟนๆได้ชมอยู่บ่อยๆ ซึ่งหลายๆคนถึงกับตามไปหาเพื่อให้ได้เจอกับซาโบ้ตัวเป็นๆสักครั้งเลยทีเดียว   เศร้าหนัก สุนัขตำรวจตรีซาโบ้ K9 … Read more

ยกครัว 4 ศพ ลูก 4 คนเสียชีวิต หลังจัดงานศพให้พ่อวัย 90 ปี ด้วยสาเหตุไม่คาดฝัน

เกิดโศกนาฏกรรมสุดสลดในมณฑลส่านซี ประเทศจีน เมื่อมีรายงานการเสียชีวิตหมู่ของสมาชิกในครอบครัว 4 คน หลังจากจัดพิธีศพให้แก่พ่อวัย 90 ปี ซึ่งทั้ง 4 คนเสียชีวิตในขณะนอนหลับ และคาดว่าสาเหตุเกิดจากสิ่งที่ไม่คาดฝัน ตามรายงานระบุว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คนประกอบด้วยลูกชาย 3 คน และลูกเขย 1 คน ที่เดินทางมาจัดงานศพให้แก่พ่อในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองซินโจว หลังจากที่ได้ฝังศพในช่วงเช้า พวกเขากลับมานอนค้างคืนที่บ้านในหมู่บ้าน แต่ทั้ง 4 คนได้เสียชีวิตระหว่างการนอนหลับในคืนนั้น จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คนมีอาการเสียชีวิตจากภาวะพิษจากก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกำลังตรวจสอบและจัดการกับเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยของสถานที่ ส่วนชาวบ้านในหมู่บ้านได้ให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตแล้ว บางคนในหมู่บ้านสงสัยว่า บ้านที่เกิดเหตุอาจถูกทิ้งร้างมานาน และทั้ง 4 คนอาจจุดเตาเพื่อทำความร้อนในห้องโดยไม่มีการระบายอากาศที่เพียงพอ ทำให้เกิดการสะสมของควันและก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ จนนำไปสู่การเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลยืนยันอย่างเป็นทางการถึงแหล่งที่มาของกลุ่มควันที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ข้อมูลจาก MS New

ข่าวด่วน!!แย่แล้ว!ราชกิจจาฯโปรดเกล้าด่วน

วันที่ 8 ต.ค.2568 ทางเพจกองทัพภาคที่ 2 ได้แถลงการณ์ สรุปสถานการณ์ โดยบระบุว่า ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 8 ตุลาคม 2568 (เวลา 14.00 น.) สถานการณ์โดยรวม ปัจจุบันกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นของตนเอง ฝ่ายไทย จัดกำลังพลประจำจุดเฝ้าตรวจตามเหตุการณ์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม และเตรียมความพร้อม ในการปฏิบัติตอบโต้ตามสถานการณ์ ทั้งนี้กองทัพภาคที่ 2 ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน เพื่อป้องกันการรับข้อมูลข่าวสาร ที่คลาดเคลื่อน บิดเบือน หรือข่าวปลอม (Fake news) ขอให้ประชาชน โปรดใช้วิจารณญาณ ในการรับข้อมูลข่าวสาร และติดตามข้อมูล จากช่องทางอย่างเป็นทางการจากส่วนราชการ ซึ่งสามารถยืนยันข้อเท็จจริงได้อย่างถูกต้อง และทันเวลา

ด่วนที่สุด! กองทัพภาคที่ 2 ประกาศพื้นที่อันตรายแล้ว

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2568 ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 2 ได้ประกาศ พื้นที่อันตราย พร้อมขอชะลอการเข้าสู่พื้นที่ชั่วคราว ผ่านเพจเฟซบุ๊กทางการ กองทัพภาคที่ 2 โดยระบุว่า พื้นที่อันตราย ขอชะลอการเข้าสู่พื้นที่ชั่วคราว กองทัพภาคที่ 2 อยู่ระหว่างปรับปรุงเส้นทางและตรวจสอบความปลอดภัยในพื้นที่ เนื่องจากยังมีกับระเบิดตกค้างในหลายจุด มาตรการปัจจุบันเป็นเพียงการควบคุมพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยชั่วคราว ไม่ได้มีเจตนาปิดกั้นการเข้าถึงของประชาชน เมื่อพื้นที่ปลอดภัยเพียงพอ จะเปิดให้หน่วยงานและประชาชนเข้าพื้นที่ได้ตามลำดับ โดยกองทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่าทุกขั้นตอนดำเนินการอย่างถูกต้อง และคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ ขอขอบคุณในความร่วมมือและขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้  

ผมไม่ยอม! สุชาติ สั่งบังคับใช้กฎหมายเต็มที่ ผลักดันชาวเขมร พ้นบ้านหนองจาน.!!

วันที่ 4 ตุลาคม 2568 ที่จังหวัดบุรีรัมย์ นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงกรณีพื้นที่บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้ว่า ขอยืนยันว่าเป็นพื้นที่ป่าไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 และได้มอบหมายให้กรมป่าไม้แจ้งความดำเนินคดีเพื่อรักษาสิทธิ์ของรัฐ พร้อมทั้งให้ติดป้ายแสดงสิทธิ์ชัดเจน นายสุชาติระบุว่า ขั้นตอนต่อไปเป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด เนื่องจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดอยู่ภายใต้การกำกับของผู้ว่าฯ ซึ่งตนได้หารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดและฝ่ายความมั่นคง รวมถึงผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) แล้ว โดยต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงดำเนินการก่อน เรื่องนี้ผมไม่ยอมแน่นอน เพราะเป็นคนสั่งให้ปักป้ายแสดงสิทธิ์ และดำเนินคดีกับผู้บุกรุกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคนสัญชาติใด หากเข้าครอบครองพื้นที่ป่าโดยผิดกฎหมาย ก็อยู่ไม่ได้ นายสุชาติกล่าว พร้อมระบุว่า การแสดงสิทธิ์ของรัฐในพื้นที่ป่า โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีเหตุปะทะ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากไม่ดำเนินการอย่างจริงจัง สถานการณ์อาจลุกลาม เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ใกล้ครบกำหนดวันที่ 10 ตุลาคม ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วจะทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา เพื่อขอให้ชาวกัมพูชาย้ายออกจากพื้นที่บ้านหนองจาน นายสุชาติเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้หารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่กระทรวงฯ แล้ว โดยย้ำว่าเรื่องนี้อยู่ในอำนาจของฝ่ายความมั่นคง ซึ่งได้มีการประกาศกฎอัยการศึก ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มที่ … Read more

อนาคตราชวงศ์ไทยกับคำทำนายลับ: เจ้าฟ้าทีปังกรฯ สะเทือนบัลลังก์

ในโลกของราชวงศ์ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นโดยบังเอิญเสียงกระซิบแห่งโชคชะตาบางครั้งมาในรูปของคำทำนายบางครั้งมาในรูปของเด็กชายตัวเล็กตัวเล็กผู้เงียบขลึมและบางครั้งมาในเวลาที่ไม่มีใครคาดคิดณดินแดนที่วัฒนธรรมศาสนาและราชบัลลังก์ถักท้อเป็นหนึ่งเดียวมีความเชื่อหนึ่งดำรงอยู่มายาวนานว่าผู้ที่จะเป็นกษัตริย์มิใช่แค่มีสายเลือดกษัตริย์แต่ต้องเป็นผู้ถูกเลือกโดยฟ้าในประวัติศาสตร์ไทยไม่ใช่ทุกพระโอรสจะได้ขึ้นครองราชย์แต่เกือบทุก กษัตริย์ล้วนมีคำทำนายที่ล้อมรอบพระองค์เมื่อรัชกาลที่4ทรงขึ้นครองราชย์มีคำพยากรณ์จากพราหมณ์หลวงว่าพระองค์จะนำพระศาสนาและวิทยาการมาสู่แผ่นดินเมื่อรัชกาลที่9เสด็จขึ้นครองราชย์ในวัยเยาประชาชนบางส่วนยังไม่แน่ใจแต่คำธรรมนายเก่าแก่ในภาคเหนือกลับกล่าวไว้ว่าจะมีพระมหากษัตริย์ผู้เป็นดั่งพ่อของแผ่นดินและวันนี้คำถามเดิมกลับมาอีกครั้งใครจะเป็นพระราชาองค์ต่อไปหลายคนอาจมีชื่อในใจหลายคนอาจคาดเดาจากข่าวลือแต่หากเรามองผ่าน ม่านของการเมืองผ่านเงาของประวัติศาสตร์และเงี่ยหูฟังเสียงของดวงดาวเราจะพบชื่อหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในแทบทุกค่ำทำนายเจ้าฟ้าทีพังกรรัศมีโชติพระโอรสที่แมจะเงียบงันไม่เป็นข่าวแต่กลับถูกกล่าวถึงซ้ำแล้วซ้ำเล่าในฐานะผู้ที่อาจจะเป็นสะพานแห่งยุคใหม่ในสมัยโบราณคำทำนายเปรียบเสมือนแผนที่นำทางราชบัลลังก์วันนี้แม้โลกจะเปลี่ยนไปผู้คนก็ยังคงเฝ้ารอใครบางคนที่ถูกลิขิตให้มาเพราะในราชสำนักไม่มีใครขึ้นสู่บัลลังก์โดยไม่มีเรื่องเล่าและ เรื่องเล่าครั้งใหม่อาจเริ่มขึ้นแล้วในบรรดาพระโอรสทั้งหมดของพระบาทสมเด็จพระวชิระเกล้าเจ้าอยู่หัวมีเพียง1พระองค์เท่านั้นที่ยังคงอยู่ภายใต้พระกรุณาธิคุณที่ยังทรงได้รับการเลี้ยงดูแลและพัฒนาอย่างใกล้ชิดนั่นคือเจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติแต่ก่อนจะไปถึงพระนามนี้เราควรย้อนมององค์รวมของราชวงศ์ในยุคปัจจุบันให้ชัดเจนก่อนพระโอรสทั้ง4พระองค์จากหม่อมสุจรินีวิวัฒวงศ์ในช่วงปี2532538พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันทรงมีพระโอรสกับหม่อมสุจรินณีวิวัฒวงศ์ซึ่งต่อมาได้ ทรงมีพระโอรส4พระองค์ได้แก่จุทธาวัฒวิวัฒวงศ์วัดเยวิวัฒวงศ์จักรีวัฒวิวัฒวงศ์วัดวีวิวัฒงศ์พระโอรสทั้ง4พระองค์นี้มิได้รับการสถาปนาเป็นเจ้าฟ้าหรือพระราชโอรสโดยชอบด้วยกฎหมายพระมารดาหม่อมสุจจารณีถูกปลดจากฐานันดรศักดิ์และออกนอกประเทศในปีพุทธศักราช2539ตั้งแต่นั้นมาพระโอรสทั้ง4พระองค์ก็ถูกกันออกจากขอบเขตราชสำนักไทยแม้ในช่วงหลังพระโอรสบางพระองค์เช่นวัดเยสและจักรีวรรได้เดินทางกลับมาเยี่ยมประเทศไทยแต่ก็ไม่มีพระราชโองการหรือประกาศใดฟื้นฟูสถานะ ทางราชการนั่นทำให้สายพระโลหิตนี้หลุดพ้นจากลำดับการสืบราชสันตีวงศ์อย่างสิ้นเชิงแล้วทำไมเจ้าฟ้าทีปังกรจึงแตกต่างเจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติทรงประสูติเมื่อปีพุทธศักราช2548เป็นพระราชโอรสที่ประสูติจากพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัตน์ผู้ซึ่งได้รับการสถาปนาเป็นพระชายาโดยชอบด้วยกฎหมายแม้ในภายหลังจะถูกปลดจากฐานันดรศักดิ์ในปีพุทธศักราช2500157แต่เจ้าฟ้าทีปังกรมิได้ถูกแตะต้องหรือถูกลดฐานตามไปด้วยตรงกันข้ามพระองค์กลับยังทรงดำรงพระ เกียรติยศในฐานะพระราชโอรสโดยชอบด้วยกฎหมายและยังคงได้รับการสนับสนุนในทุกด้านจากสถาบันพระมหากษัตริย์หลักฐานสำคัญคือในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกปีพุทธศักราช2562เจ้าฟ้าทีปังกรทรงมีบทบาทสำคัญในการถวายพระแสงขันธ์ชัยศีแด่พระราชบิดาซึ่งเป็นหนึ่งในพิธีการที่สงวนไว้สำหรับผู้สืบราชสันตติวงศ์ที่ได้รับการพิจารณาแล้วอีกทั้งในชีวิตประจำวันแม้จะทรงศึกษาอยู่ที่ประเทศเยอรมนีแต่พระองค์ยังได้รับการดูแลจากครูเฉพาะทางและคณะทำงานที่ติดตามอย่าง ใกล้ชิดแม้มีรายงานว่าพระองค์เงียบขลึงและมีความท้าทายด้านพัฒนาการแต่พระองค์กลับทรงมุ่งมั่นตั้งใจฝึกฝนตนเองด้วยวินัยและความเพียรตามพระราชบัญญัติการสืบราชสันตติวงศ์พุทธศักราช2467ผู้มีสิทธิ์ขึ้นครองราชย์ต้องเป็นพระราชโอรสโดยชอบด้วยกฎหมายของพระมหากษัตริย์และมิได้ถูกตัดสิทธิ์โดยพระราชโองการเมื่อพิจารณาตามกฎหมายราชประเพณีและพฤติการที่ปรากฏเจ้าฟาทีปังกรจึงเป็นพระองค์เดียวที่ยังคงอยู่ในแผนที่แห่งอนาคตบางครั้งการไม่ถูกกล่าวถึงคือสัญญาณว่า เขากำลังถูกจับตามองอย่างลึกซึ้งที่สุดในราชสำนักไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นโดยบังเอิญการทรงเงียบอยู่ท่ามกลางความเคลื่อนไหวของโลกอาจมิใช่ความบังเอิญแต่นั่นคือความพร้อมที่กำลังก่อตัวอย่างเงียบงันรอวันปลุกแผ่นดินอีกครั้งผู้คนอาจเลือกผู้นำจากเสียงปรบมือแต่ดวงดาวเลือกจากความถี่ของวิญญาณในโลกตะวันตกโหราศาสตร์อาจถูกมองว่าเป็นความเชื่อเก่าแต่ในโลกของราชสำนักไทยมันคือภาษาของฟ้าภาษาที่ใช้ตีความพลังจังหวะและโชคชะตาของทั้งประเทศ และของพระราชาการประสูติของเจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติเกิดขึ้นในช่วงปีพุทธศักราช2548ซึ่งตามโหราศาสตร์ไทยและสากลเป็นช่วงที่ดาวพฤหัสบดีเคลื่อนเข้าสู่ราศีธนูราศีแห่งสติปัญญาความเป็นผู้นำการเรียนรู้และความยุติธรรมดวงชะตาแห่งผู้ฟื้นฟูในหมู่นักพยากรณ์ดวงดาวมีแนวคิดหนึ่งที่น่าสนใจว่าผู้ที่เกิดภายใต้ดาวพฤหัสราศีธนูมักจะมีพลังบารมีเย็นคือauthorityคือไม่ใช่ผู้นำที่ใช้เสียงดังหรือกดเหล็กแต่เป็นผู้นำที่ใช้ความอดทนสติและความลุ่มลึกใน จิตใจและที่สำคัญเจ้าฟ้าทีปังกรมีดาวดาวเสาร์ในตำแหน่งที่เข้มแข็งดาวเสาร์ในศาสตร์โบราณคือผู้ทดสอบผู้ที่ผ่านบททดสอบของดาวนี้มักจะกลายเป็นผู้นำที่มั่นคงไม่หวั่นไหวต่อเสียงนินทาหรือแรงเสียดทานของโลกจึงไม่น่าแปลกใจที่แม้พระองค์จะไม่เคยแสดงพระองค์ต่อสื่อมากนักแต่กลับได้รับความสนใจอย่างเงียบๆจากกลุ่มนักโหรศาสตร์ที่ต่างกล่าวว่าดาวของพระองค์กำลังเดินเข้าสู่ตำแหน่งพลังสูงสุดในทดวันี้พลังที่เติบโตท่ามกลางความเงียบไม่มีคำแถลง ไม่มีคำสัมภาษณ์ไม่มีพระราชดำรัสต่อสาธารณะแต่ในทุกพระราชพิธีสำคัญพระองค์กลับอยู่ตรงนั้นเสมอในศาสตร์โหรศาสตร์มีหลักหนึ่งกล่าวว่าผู้ที่เงียบที่สุดมักส่งสัญญาณแรงที่สุดต่อจักรวาลและสัญญาณนั้นคือความเปลี่ยนแปลงที่ใกล้เข้ามาความหมายที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าชะตาในทุกยุคของประวัติศาสตร์มักจะมีผู้หนึ่งที่ถูกเลือกให้เดินข้ามสะพานระหว่างยุคเก่าและยุคใหม่บางครั้งพวกเขาไม่ได้เติบโตในความรุ่งเรืองแต่เติบโตในความเงียบความเจียมตนและการเรียน รู้เจ้าฟ้าทีปังกรอาจไม่ใช่พระโอรสที่เสียงดังที่สุดแต่พระองค์อาจคือเสียงที่จักรวาลต้องการฟังดวงดาวไม่เคยตะกอหรอกแต่เมื่อถึงเวลามันจับเหล่งแสงสว่างโดยไม่ต้องขออนุญาตจากใครและเมื่อแสงนั้นส่องมาถึงแผ่นดินไทยมันอาจไม่ใช่แค่คำทำนายแต่มันคือจุดเริ่มต้นของราชาองค์ใหม่ที่จักรวาลได้กำหนดไว้แล้วความเข้มแข็งของบางคนไม่ได้แสดงออกผ่านถ้อยคำแต่ผ่านความเงียบที่ไม่เคยหายไปถ้ามีคำใดที่สามารถสรุปภาพลักษณ์ของเจ้าฟ้า ทีปังกรรัศมีโชติในสายตาสาธารณชนได้ดีที่สุดคำนั้นคงคือเงียบพระองค์ไม่เคยให้สัมภาษณ์ไม่เคยมีโซเชียลไม่เคยทรงเป็นข่าวในรูปแบบที่วัยรุ่นในยุคปัจจุบันเป็นแต่แม้จะเงียบเพียงใดพระองค์กลับปรากฏอยู่ในที่ที่สำคัญที่สุดอย่างต่อเนื่องการปรากฏกายที่เปลี่ยนความหมายภาพของพระองค์เคียงข้างพระราชบิดาในพระราชพิธีอีกไม่ใช่เพียงแค่การแสดงออกถึงความจงรักภักดีอีกแต่ยังเป็นภาษาที่ราชสำนักใช้ในการสื่อสารกับประชาชนว่าเขาคือคนที่กำลังเติบโต ในท่ามกลางพิธีกรรมและความเงียบภาพที่พระองค์ทรงเดินอย่างสงบมีมารยาทเรียบร้อยในงานพระราชพิธีสำคัญไม่ใช่เพียงภาพของเด็กชายในเครื่องแบบแต่คือภาพของผู้เติบโต๊ะขึ้นมาในระเบียบและแบบแผนของการเป็นพระราชาบททดสอบที่ไม่มีใครเห็นขณะที่วัยรุ่นหลายคนเผชิญบทเรียนในโรงเรียนเจ้าฟ้าทีปังกรเผชิญบทเรียนจาก2โลกโลกภายนอกที่มีสายตาจับจ้องและโลกภายในที่เต็มไปด้วยความคาดหวังอันเงียบงันมีรายงานว่าพระองค์ทรงศึกษาในประเทศ เยอรมนีในโรงเรียนที่เน้นระเบียบวินัยและความเป็นอิสระทางความคิดทรงใช้ชีวิตในต่างแดนอย่างเรียบง่ายโดยมีครูดูแลเป็นการเฉพาะห่างจากแสงไฟของสื่อและห่างไกลจากเสียงของการเมืองแต่นั่นอาจเป็นบททดสอบที่แท้จริงเพราะผู้นำที่แท้มิได้เติบโตจากเสียงปรบมือแต่เติบโตจากความเข้าใจตนเองในยามที่ไร้คนเห็นยิ่งอยู่ในความเงียบจิตใจยิ่งแข็งแกร่งและองค์ชายผู้นี้กำลังพิสูจน์ว่าความเงียบมิได้หมายถึงความอ่อนแอแต่มันคือการเตรียมตัวสำหรับ วันหนึ่งที่ต้องพูดในนามของแผ่นดินผู้อยู่เบื้องหลังที่อาจอยู่เบื้องหน้าราชวงศ์ไทยเคยมีหลายองค์ชายที่ไม่เป็นข่าวแต่ในเวลาสำคัญพวกเขากลับถูกเรียกตัวให้มานำเช่นเดียวกับในประวัติศาสตร์ของรัชกาลที่9ซึ่งเสด็จขึ้นครองราชย์ในเวลาที่น้อยคนคาดถึงแต่นำพาประเทศไทยผ่านวิกฤตนานนับประการเจ้าฟ้าทีปังกรอาจอยู่เบื้องหลังขอบจอของประชาชนวันนี้แต่ในวันข้างหน้าเขาอาจยืนอยู่เบื้องหน้าของประชาชาติทั้งหมดผู้นำที่แท้มิใช่ผู้ที่ตะโกนว่าจงฟังข้า แต่คือผู้ที่เงียบแล้วคนทั้งแผ่นดินตั้งใจฟังเขาเองและหากวันนั้นมาถึงเราจะย้อนมองกลับไปยังวันนี้ด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นต่อความเงียบที่ซ่อนพลังไว้มหาศาลไม่มีใครล่วงรู้อนาคตแต่บางคนเกิดมาเพื่ออยู่ในอนาคตนั้นประเทศไทยในศตวรรษที่21กำลังยืนอยู่ในจุดเปลี่ยนยุคที่ประชาชนเรียกร้องความเปลี่ยนแปลงในขณะที่อีกฝ่ายต้องการความมั่นคงโลกหมุนเร็วแต่ราชสำนักยังต้องยืนมั่นในระหว่างแรงโน้มถ่วงของอดีตและความเร่ง ร้อนของอนาคตเราต้องการผู้นำที่ไม่เพียงมีสายเลือดแต่ต้องมีจิตวิญญาณของผู้เชื่อมโลกทั้งสองไว้ด้วยกันเจ้าฟ้าทีปังกรผู้นำแห่งความหวังเงียบหากวันหนึ่งพระองค์ขึ้นครองราชย์เราคงได้เห็นราชาธิปไตยในรูปลักษณ์ใหม่ไม่ใช่เพียงผู้ปกครองตามพิธีการแต่คือพระราชาเงียบที่เติบโตจากการเรียนรู้และสังเกตพระองค์ทรงอาจมิใช่พระราชาที่ประชาชนใฝ่ฝันแต่กลับเป็นพระราชาที่เหมาะสมกับยุคสมัยที่กำลังจะมาถึงในวันที่โลกเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ความเกรี้ยวกราดพระราชาแห่งสติอาจเป็นคำตอบที่ดีที่สุดโลกไม่ต้องการผู้นำที่พูดทุกวันแต่ต้องการผู้นำที่ฟังอย่างลึกซึ้ง1ครั้งมากกว่าคำทำนายคือการลงมือเขียนประวัติศาสตร์ใหม่คำทำนายอาจเป็นเพียงเงาแต่พระราชาประกอบตอบด้วยเนื้อหนังชีพจรและหัวใจคำพยากรณ์อาจเป็นแนวทางแต่พระราชาคือผู้เดินตามแนวทางนั้นให้เป็นจริงพระองค์ยังเยาไวและอนาคตยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนแต่สัญญาณทั้งหมดที่โหราจารย์เห็นที่ประวัติศาสตร์กล่าวถึง ที่พิธีการสะท้อนออกมาอย่างเงียบงันชี้ไปยังพระองค์อย่างแนบเนียนและต่อเนื่องถ้าชะตากรรมคือกระแสลมเจ้าฟ้าทีบังกรอาจคือเรือที่ถูกต่อไว้นานแล้วเพราะวันออกเดินทางสะพานสู่ยุคใหม่บางคนมองพระองค์เป็นผู้แทนของสถาบันบางคนมองพระองค์เป็นความหวังใหม่และบางคนอาจยังไม่เคยรู้จักพระองค์เลยแต่ไม่ว่าจะเป็นเช่นไรพระองค์กำลังเป็นสะพานระหว่างอดีตอันลึกซึ้งและอนาคตที่ยังไม่มีใครกล้าจินตนาการราชาไม่จำเป็นต้องเปล่งแสงที่สุดแต่อย่าลืมว่า แสงอาทิตย์รุ่งอรุณก็เริ่มจากความเงียบและหากโชคชะตาเป็นผู้เขียนเรื่องราวของไทยองค์ชายถี่ปังกรคือหนึ่งในตัวละครสำคัญที่กำลังรอวันปรากฏบทเต็มในหน้าประวัติศาสตร์ครับ

“ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ตัดสินใจโพสต์ถึง “ครอบครัวชินวัตร” ตรง ๆ แล้ว

“ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ระบุ พ่ออยู่ข้างใน ทั้งครอบครัวก็เหมือนถูกจองจำ ผมติดคุกมาแล้ว 3 รอบ ลำพังตัวเองไม่เท่าไหร่ แต่ห่วงใยความรู้สึกและสภาพจิตใจคนข้างหลังเป็นที่สุด ภรรยามาเรือนจำทุกวันไม่เคยขาด คอยจัดการอาหารและดูแลทุกอย่างให้ทั้งผมและเพื่อน ๆ เหมือนเป็นพนักงานประจำ ลูกชายคนโตวัย 2 ขวบมาเกาะลูกกรงหาพ่อใต้ถุนศาล ลูกสาวคนเล็ก 9 เดือนกว่า เจอกันครั้งเดียววันคลอด จนวันผมได้กลับบ้าน ลูกไม่รู้จักพ่อ ร้องไห้ไม่ยอมให้อุ้ม เรื่องราวในการต่อสู้ ความอยุติธรรมที่ต้องแบกรับและกัดฟันผ่านมา ใครไม่เจอกับตัวคงไม่รู้ ผมว่าใจผมนิ่งพอสมควรกับเรื่องคุกตะราง แต่ยอมรับว่าเห็นภาพคุณหญิงกับลูก ๆ วันนี้ ใจสะเทือน เวลาเข้าเยี่ยมมีจำกัด พ่อ แม่ ลูก คงได้คุยกันไม่มาก แต่สิ่งที่อยู่ในใจคงสื่อถึงใจกันและกันท่วมท้น ส่งกำลังใจให้ท่านนายกทักษิณ คุณหญิง และลูก ๆ ทุกคนนะครับ ท่านสู้ผลักดันนโยบาย ทำงานช่วยคนยากคนจนมามาก ถึงวันนี้ขอให้ท่านและครอบครัวสู้ต่อ สู้ให้สุดใจ สู้ให้สมศักดิ์ศรี ผ่านวันเวลาแบบนี้ไปด้วยความเข้มแข็งครับ

เจนนี่ ไม่ไหวเเล้ว เปิดแชท แม่เกตุ ขู่ไลฟ์สดพูดความจริง อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด.!!

กลายเป็นประเด็นดราม่าของครอบครัวอีกครั้งสำหรับ เจนนี่ รัชนก หรือ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ที่ล่าสุดได้ออกมาโพสต์แชทกับแม่เกตุ พร้อมเขียนข้อความว่า ล่าสุด มีคู่กรณีเป็นแม่ !!!! เอาเลยแม่ แหลงให้แหมดเรื่องในบ้าน มันได้จบแบบจริงๆสักที เหนื่อยแล้วเหมือน ขี้คร้านอีมาปิดบังสร้างภาพอะไรแล้ว ถ้าแม่ทำแล้วบายใจแม่ทำเลย หนุกกันนิ ไม่ต้องหยุด เอาให้สุด ให้เพื่อนได้แหลงทั่วประเทศไปเลย 11 โมง เริ่ม เจ้าหนี้ทั้งหลายไม่ต้องทักมาหาเจนนี่นะคะ ไม่รับเคสแล้วค่ะ ถึงใครที่อีให้ยืมหลาวกะพิจารณาเอาเองค่ะ ในส่วนเจนนี่ให้จบเทียมวันนี้ หลังจากนี้จะไม่แตะไม่ต้อง ไม่อะไรกับเรื่องพันนี้แล้ว แขบเคลียร์ให้จบ ก่อนเด็กๆ 2 คนโตขึ้นมาถ้าเค้ารู้เรื่อง ได้ไม่ต้องมารับรู้อะไรทั้งสิ้นอีก รักแม่นะรักมาก รักมาตลอด แต่ไม่ไหวละ เฝ้าเลยวันนี้โพสต์ทั้งวัน แลก่อนว่าแกแหลงไหรมั้ง เอาให้จบบบบ ไม่ต้องเที่ยวรบกันอยู่ ท่ามกลางแฟนๆเเละคนใกล้ชิดต่างส่งกำลังใจกันอย่างมาก

ข่าวด่วน!! แย่แล้ว!ราชกิจจาฯโปรดเกล้าด่วน……

    วันที่ 8 ต.ค.2568 ทางเพจกองทัพภาคที่ 2 ได้แถลงการณ์ สรุปสถานการณ์ โดยบระบุว่า ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 8 ตุลาคม 2568 (เวลา 14.00 น.) สถานการณ์โดยรวม ปัจจุบันกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นของตนเอง ฝ่ายไทย จัดกำลังพลประจำจุดเฝ้าตรวจตามเหตุการณ์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม และเตรียมความพร้อม ในการปฏิบัติตอบโต้ตามสถานการณ์ ทั้งนี้กองทัพภาคที่ 2 ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน เพื่อป้องกันการรับข้อมูลข่าวสาร ที่คลาดเคลื่อน บิดเบือน หรือข่าวปลอม (Fake news) ขอให้ประชาชน โปรดใช้วิจารณญาณ ในการรับข้อมูลข่าวสาร และติดตามข้อมูล จากช่องทางอย่างเป็นทางการจากส่วนราชการ ซึ่งสามารถยืนยันข้อเท็จจริงได้อย่างถูกต้อง และทันเวลา  

@!เฮทั้งประเทศ!!!ประกาศด่วน!! ราชกิจจาฯ !@ประกาศ สิ้นสภาพ ความเป็นพรรคการเมือง@!

เฮทั้งประเทศ!!!ประกาศด่วน!! ราชกิจจาฯ ประกาศ สิ้นสภาพ ความเป็นพรรคการเมือง  เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งเรื่อง พรรคเปลี่ยนอนาคต สิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง โดยประกาศดังกล่าวระบุว่า ตามที่นายทะเบียนพรรคการเมืองโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง ลงวันที่ 30 กันยายน 2568 เรื่อง รับจดทะเบียนจัดตั้งพรรคเปลี่ยนอนาคต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 นั้น นายอัครนันท์ อริยศรีพงษ์ หัวหน้าพรรคเปลี่ยนอนาคต ได้มีหนังสือแจ้งต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเปลี่ยนอนาคต เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์เห็นชอบให้เลิกพรรคเปลี่ยนอนาคต ตามข้อบังคับพรรคเปลี่ยนอนาคต พ.ศ. 2564 ข้อ 110 กรณีดังกล่าว จึงเป็นเหตุให้พรรคเปลี่ยนอนาคตสิ้นสภาพความเป็น พรรคการเมือง ตามมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (7) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 คณะกรรมการการเลือกตั้งจึงประกาศให้พรรคเปลี่ยนอนาคตสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมืองตามมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (7) และวรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ทั้งนี้ … Read more