ทบ. แจงเสบียงทหาร ภูมะเขือ ล่าช้า เชื่อไม่เจตนา ลั่นถ้ามีกลั่นแกล้งโทษหนักแน่ ตอบปมแชททหารหลุด โดนสั่งงดตอบโต้เขมรยิงใส่

ทบ. แจงเสบียงทหาร ภูมะเขือ ล่าช้า เชื่อไม่เจตนา ลั่นถ้ามีกลั่นแกล้งโทษหนักแน่ ตอบปมแชททหารหลุด โดนสั่งงดตอบโต้เขมรยิงใส่

วันที่ 29 ก.ย. 2568 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีการจัดส่งเสบียงไปยังทหารหน้าแนวภูมะเขือมีความล่าช้า ว่า ปัจจุบันข้อมูลยังไม่มีความชัดเจน และเป็นไปได้ยาก ซึ่งเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว คือ เรื่องสภาพแวดล้อมและการขนส่งสภาพภูมิประเทศ ดังนั้นเป็นไปได้ยากที่จะเกิดข้อบกพร่องในเรื่องเหล่านี้

เมื่อถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่าการขนส่งเสบียงส่งถึงทหารทุกนาย พล.ต.วินธัย กล่าวว่า หน่วยทหารหน้าแนว มีระยะทาง ยาวกว่า 700 กิโลเมตร จึงต้องดูรายละเอียด เพราะโดยธรรมชาติเกิดขึ้นได้ยาก และการดูแลหน่วยทหารถือเป็นความสำคัญอย่างมาก และจะไม่เกิดข้อผิดพลาดแน่นอน เรื่องงบประมาณการดูแลกำลังพล ย้ำว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะเราไม่ได้ขาดแคลนเพียงแต่เราไม่รู้ว่าสภาพแวดล้อมขณะนั้นเป็นอย่างไร ทำให้เกิดความล่าช้าในปัจจัยสภาพภูมิประเทศหรือไม่

เมื่อถามว่าที่ผ่านมามีรายงานอุปสรรคเกี่ยวกับการขนส่งเข้ามาหรือไม่ พล.ต.วินธัย กล่าวว่า เรามีความพร้อมตลอดอยู่แล้ว เพราะภูมิประเทศของไทยส่วนใหญ่บางที่เป็นลักษณะป่า ต้องฝ่าป่าเข้าไป ไม่เหมือนฝั่งกัมพูชา ปัจจุบันจึงมีโครงการที่จะจัดทำส่งกำลังที่มีความแข็งแรงมากกว่าเดิม เพราะปกติแล้วหน้าฝนของไทยนั้นจะใช้ไม่ค่อยได้

พล.ต.วินธัย กล่าวอีกว่า ส่วนที่ขัดข้องตนก็ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร เพราะเราไม่รู้ว่ารถเสบียงใช้เป็นรถอะไร เปลี่ยนรถ หรือรถเสีย ปัจจุบันมีข้อมูลน้อยแต่ยืนยันได้ว่าเสบียงนั้นเป็นสิ่งสำคัญและเป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีพของทหารอยู่แล้วและไม่น่าจะเกิดด้วยความตั้งใจอย่างแน่นอน

เมื่อถามอีกว่าปัจจุบันยืนยันว่าเสบียงเข้าไปทุกฐานกำลัง ครบหมดแล้วใช่หรือไม่ พล.ต.วินธัย กล่าวว่า มันพูดยากว่าจะตรวจสอบว่าครบหรือไม่ เพราะส่งในระดับหน่วย ระดับกองพัน มีหลายกองพัน บางครั้งก็ส่งในลักษณะกองร้อย ที่มีความห่างกันอยู่ในลักษณะที่กระจายกันออกไป รวมทั้งอาจมีการส่งไล่กันไปโดยธรรมชาติ เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาของเหล่านั้นไว้

พล.ต.วินธัย กล่าวต่อว่า คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับระบบขนส่ง เชื่อว่าเป็นการทำงานในระดับเจ้าหน้าที่เสียมากกว่า ย้ำว่ามีรายละเอียดน้อยไปซึ่งต้องนำข้อมูลมาว่าเป็นหน่วยไหน พื้นที่ใด และกองร้อยใด ฐานใด เราจะได้เจาะไปได้ว่าฐานนั้นทำไมมันช้า

พล.ต.วินธัย กล่าวอีกว่า เรื่องเหล่านี้ที่ผ่านมาไม่เคยได้รับรายงาน ตนยืนยันโดยวิธีธรรมชาติว่าเราอยู่กันแบบครอบครัว โดยเฉพาะบุคคลที่ร่วมเป็นร่วมตายกัน ฉะนั้นจึงเป็นไปได้ยากที่มีเจตนาจะไม่ส่งเสบียงให้หรือไม่ส่งน้ำให้ คิดว่ามันเป็นไปได้ยาก หากเป็นไปได้ ตนยังเชื่อว่าจะต้องไม่ใช่เจตนาอย่างแน่นอน และต้องมีอะไรบางอย่างที่ผิดพลาด เชื่อว่าไม่ได้ตั้งใจอย่างแน่นอน ตนมั่นใจเพราะลักษณะการทำงานของหน่วยแบบนั้น

พล.ต.วินธัย กล่าวต่อว่า ในพื้นที่เช่นนั้นไม่น่าจะออกมาในทางลบ เพียงแต่ยังไม่ได้รับรายละเอียดที่ชัดเจน เพราะเรื่องดังกล่าวหากเป็นความตั้งใจและบกพร่องโดยมีเจตนาที่จะกลั่นแกล้งหรือทำอย่างหนึ่งอย่างใด ตนว่ามีโทษหนักอย่างแน่นอนและจะโดนโทษทางวินัยทหารค่อนข้างแรง ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ยังคงปกติและยังไม่ได้รับแจ้งเหตุใดๆ

เมื่อถามอีกว่ากรณีที่โซเชียลมีเดียมีการอ้างว่าเป็นแชทของพลทหารในพื้นที่ชายแดน ช่องอานม้า จากเหตุการณ์ที่เกิดจากการที่กัมพูชา เปิดฉากยิงยั่วยุใส่ทหารไทย ทั้งปืนกลและเครื่องยิงลูกปืนใหญ่ แต่คำสั่งที่ทหารไทยได้รับ คืองดตอบโต้ ถึงแม้จะโดนยิงใส่จริง โดยในแชทข้อความมีการแสดงความอัดอั้นออกมาอย่างชัดเจนว่า สั่งให้เตรียมพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ แต่กลับมีประโยคสุดเดือดว่า รอตายก่อน ค่อยตอบโต้

พล.ต.วินธัย กล่าวว่า คงไม่ได้มีแชทข้อความสั่งการทางการ เพราะขั้นตอนในการปฏิบัติงาน เป็นรายละเอียดระดับหน่วย มีทั้งระดับหมวด ระดับกองร้อย และกองพัน การใช้อาวุธจะมี 2 ลักษณะ คือ 1.ใช้เมื่อมีภัยคุกคาม และ 2.ใช้ตามดุลยพินิจของกำลังพล ส่วนบุคคลจนถึงระดับแบบเต็มหน่วยระดับปืนเล็กที่สามารถยิงกันพร้อมทั้งหน่วยได้

พล.ต.วินธัย กล่าวอีกว่า บางครั้งข้าศึกยังไม่ถึงจุดหรือพิกัดที่มองว่าเสี่ยงหรือจุดสังหาร ทางผู้บังคับบัญชาอาจจะยังไม่สั่งยิง เพราะการตัดสินใจต้องมีปัจจัยความเสี่ยงหลายอย่าง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์หน้างานว่าจะมีการตัดสินใจจากบุคคลหรือระดับหน่วย ดังนั้น บางครั้งหากสถานการณ์ประเมินแล้วว่าเป้าหมายไม่คุ้มค่า การใช้อาวุธก่อนมันจะเสียผลในทางการทำลาย จะต้องรอให้เป้าหมายอยู่ในระยะก่อน ถึงจะเริ่มได้

เมื่อถามว่าขณะที่ภาพที่ทางกัมพูชาได้มีการโพสต์และโจมตีหาว่าไทยยิงใส่กัมพูชาก่อนหน้านี้ ภาพดังกล่าวยังมีการโพสต์ลักษณะคล้ายหลุมระเบิดและอาวุธสงคราม โดยมีการอ้างว่าเป็นการโจมตีจากฝั่งประเทศไทยแต่ไม่ได้มีการระบุช่วงเวลาเหตุการณ์

พล.ต.วินธัย กล่าวว่า เป็นภาพเก่าที่นำมาโพสต์ เเละเชื่อว่าคนส่วนใหญ่น่าจะเข้าใจที่กัมพูชาออกมาโพสต์เพื่อชี้ให้เห็นว่าภาพนี้เคยมีการนำมาใช้แล้วตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ส่วนตัวมองว่าเนื้อหาและคอนเทนต์ของกัมพูชาไม่น่าเชื่อถือ ช่วงหลังกัมพูชาจะเปลี่ยนการสื่อสารมาต่อสู้ เราเองต้องเท่าทันกัมพูชา

กองทัพภาคที่ 2 โต้ ทหารภูมะเขือ ขาดเสบียง ยันดูแลกำลังพลพื้นที่ชายแดนรอบด้าน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *