หนุ่มขายไตซื้อไอโฟน เพราะไม่อยากน้อยหน้าเพื่อน ผ่านไป 14 ปี อยู่ก็เหมือนตาย

หนุ่มขายไตซื้อไอโฟน เพราะไม่อยากน้อยหน้าเพื่อน ผ่านไป 14 ปี อยู่ก็เหมือนตาย

ตำนานหนุ่มขายไตซื้อไอโฟน เพราะไม่อยากน้อยหน้าเพื่อน เปิดชะตากรรมน่าเวทนา หลังผ่านไป 14 ปี  

 

เรื่องราวเมื่อปี 2011 เด็กหนุ่มชาวจีนคนหนึ่งยอมแลกสุขภาพทั้งชีวิต เพียงเพื่อได้ครอบครอง iPhone 4 และ iPad 2 แม้เวลาจะผ่านไป 14 ปีแล้ว เรื่องราวของนักเรียนวัย 17 ปีรายนี้ยังคงถูกพูดถึงอยู่เสมอ

ตามรายงานของสื่อจีน iPhone 4 เปิดตัวในเดือนมิถุนายน 2010 และกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งเทคโนโลยีที่ถูกมองว่าเป็น “เครื่องวัดระดับความเท่” ของวัยรุ่นสมัยนั้น เพื่อน ๆ ในชั้นเรียนต่างมีมือถือรุ่นนี้ แต่ หวัง ซ่างคุน เด็กหนุ่มอายุ 17 ปีจากครอบครัวยากจนในมณฑลอันฮุย ทำได้เพียงมองอย่างอิจฉา เพราะฐานะไม่เอื้อให้มีโทรศัพท์ในฝัน

จนวันหนึ่ง หวังได้รับข้อความชวนเชื่อว่า “มนุษย์มีไตสองข้าง ใช้เพียงข้างเดียวก็อยู่ได้ ทำไมไม่ขายไปข้างหนึ่งเพื่อเอาเงินมาใช้ล่ะ” ด้วยความเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เขาจึงแอบติดต่อกับคนแปลกหน้าและยอมขายไตหนึ่งข้าง การผ่าตัดผิดกฎหมายเกิดขึ้นในโรงพยาบาลท้องถิ่นภายใต้สภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย โดยมีแพทย์สองคนร่วมลงมือ เขาได้เงินมา 20,000 หยวน (ราว 85,000 บาท) เพียงพอที่จะซื้อ iPhone 4 และ iPad 2 ที่คิดว่าจะทำให้ “เชิดหน้าชูตา” ต่อเพื่อนได้

แต่ผลลัพธ์กลับน่าเศร้า หวังถูกแม่สงสัย เมื่อถูกซักถาม เขาจึงยอมสารภาพว่า “แม่ครับ ผมขายไตไปแล้ว” แม่เล่าว่ารู้สึกเหมือนฟ้าถล่มเมื่อได้ยินความจริงนั้น คำรับรองจากกลุ่มนายหน้าที่บอกว่า “ฟื้นตัวได้ในหนึ่งสัปดาห์” ก็กลายเป็นคำโกหก เพราะการผ่าตัดไม่ปลอดเชื้อทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรง ไตที่เหลืออยู่ก็เสื่อมสมรรถภาพอย่างหนัก ไม่ถึงสองสัปดาห์ต่อมา เขาต้องเข้าโรงพยาบาลในสภาพวิกฤติ

ปีถัดมา (2012) ตำรวจจีนสามารถทลายขบวนการค้ามนุษย์อวัยวะนี้ได้ กลุ่มผู้ก่อเหตุถูกบังคับให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่ครอบครัวของหวัง 1.48 ล้านหยวน (ประมาณ 5.5 ล้านบาทในเวลานั้น) แต่เงินก้อนนั้นไม่สามารถชดเชยสุขภาพที่เสียหายไปตลอดชีวิตได้ หวังต้องฟอกไตเป็นประจำ เข้าโรงพยาบาลบ่อยครั้งจากภาวะแทรกซ้อน เช่น ไข้สูง เหนื่อยล้า หรือปัสสาวะเป็นเลือด

ปัจจุบันอายุ 31 ปี เขาแทบจะกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ถูกจัดอยู่ในระดับพิการขั้นที่ 3 สูญเสียการทำงานของไตไปถึง 75% และไม่สามารถทำงานได้อีก

หลังผ่านไป 14 ปี หวังยอมรับว่าเสียใจอย่างที่สุดต่อความหุนหันพลันแล่นในวัยเยาว์ เพียงเพราะไม่อยากแพ้เพื่อน ๆ จึงพาตัวเองสู่โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ขณะที่แม่เอ่ยทั้งน้ำตาว่า “ถ้าตอนนั้นฉันยอมซื้อโทรศัพท์ให้ลูกตั้งแต่แรก บางทีเขาอาจจะไม่เลือกเส้นทางแบบนี้ก็ได้”

จนถึงวันนี้ เรื่องราวนี้ยังคงเป็นบทเรียนอันเจ็บปวด เกี่ยวกับราคาที่ต้องจ่ายเมื่อมนุษย์หลงใหลในวัตถุโดยไม่คิดถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *